ทราบกันดีว่าผู้อ่านทุกท่านฝันอยากมีบ้านหรือห้องที่สวยงามดั่งที่เคยตั้งใจไว้ แต่จากเหตุผลที่อสังหาริมทรัพย์มีราคาที่สูง และสูงขึ้นมากอีกเรื่อยๆนั้น ทำให้ความฝันของเรานั้นยากขึ้นไปอีกนิด หากได้ทราบถึงวิธีการหรือเทคนิคเล็กน้อย ที่จะส่งผลช่วยให้บ้านหรือคอนโดของเรามีขนาดใหญ่ขึ้นนั้น คงจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ในบทความนี้ Fit-in Home จะพาทุกท่านเรียนรู้ไปพร้อมๆกันกับเทคนิคที่จะเปลี่ยนบ้านแคบให้เป็นบ้านกว้างกันครับ
การเลือกใช้สีที่ทำให้ห้องดูกว้างมากยิ่งขึ้น
การทาสีห้องหรือเปลี่ยนสีห้องนั้น สามารถพูดได้ว่าเป็นทางเลือกที่ใช้งบประมาณต้นทุนน้อยมากหรืออาจน้อยที่สุดวิธีหนึ่ง เพียงเปลี่ยนโทนสีหรือเฉดสีที่ใช้ทาผนังห้องให้เหมาะสม ก็สามารถช่วยให้ห้องดูกว้าง มีขนาดพื้นที่เยอะขึ้น อีกทั้งอาจยังช่วยให้ง่ายต่อการจัดห้อง ให้เป็นระเบียบและหลากหลายมากยิ่งขึ้น
1. เลือกใช้สีโทนสว่าง
สีโทนที่สว่างจะมีคุณสมบัติการสะท้อนแสงมากกว่าหากเปรียบเทียบกับสีโทนเข้ม โดยคุณสมบัติการสะท้อนของแสงจะช่วยทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง กว้าง สบายตามากขึ้น และช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัดนั้นเอง
2. เลือกใช้สีที่มีโทนใกล้กัน
หลายท่านอาจมีความคิดส่วนตัวหรือมีความชอบส่วนตัวที่มองว่าการใช้สีเพียงสีเดียวนั้น จะทำให้ห้องหรือบ้านดูจืดชืดและน่าเบื่อ การที่ใช้สีอื่นเข้ามาเข้าคู่กันอาจเป็นวิธีการที่น่าสนใจที่จะทำให้พื้นที่บริเวณนั้น ๆ ดูน่าประทับใจและน่าดึงดูดมากขึ้น อีกทั้งจะทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้นในขณะเดียวกัน
Monochromatic : เป็นวิธีการที่ใช้สีหลักหนึ่งสี และทำการปรับความเข้มและอ่อนของเฉดสีเพื่อนำมาเข้าคู่กันอย่างเหมาะสมลงตัว โดยทางเลือกนี้จะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น โปร่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันยังช่วยเสริมความหรูหรา สบายตา อีกทั้งยังสามารถสื่อความรู้สึกของห้องไปในทางเดียวกันได้อย่างดีด้วย ซึ่งเป็นทางเลือกวิธีการนึงที่นักออกแบบภายในส่วนใหญ่เลือกใช้กัน
Analogous : เป็นทางเลือกของการใช้สีที่จะทำให้ห้องหรือพื้นที่บริเวณนั้น ๆ ดูสนุก โดดเด่น น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งคือการเลือกสีใดสีหนึ่งขึ้นมาเป็นสีหลัก และเลือกสีที่มีอุณหภูมิโทนใกล้เคียงกันภายในวงล้อสี (Colour Wheel) มาเข้าคู่กัน ยกตัวอย่างเช่น ต้องการจะใช้สีส้มเพื่อตกแต่งเป็นสีหลัก สีรองที่จะต้องเลือกก็อาจเป็นสีเหลือง แดง หรือสีโทนร้อนเหล่านี้ในการตกแต่งให้เข้ากัน
3. การเลือกทาสีบนผนังด้านลึกที่มีโทนเข้ม
ทางเลือกนี้เป็นวิธีการที่ดีที่จะทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น โดยใช้สีโทนเข้มทาบริเวณผนังด้านที่ลึก เพื่อสร้างภาพการมองเห็นที่คล้ายกับการมองเข้าไปในหลุมอุโมงค์ โดยจะส่งผลหรือเห็นผลมากขึ้นถ้าหากทาสีผนังส่วนที่เหลือและบริเวณฝ้าเพดานเป็นสีเดียวกันทั้งหมด
4. การเลือกทาสีผนังที่ใกล้กันต่อเนื่อง
การทาสีผนังที่ชิดกันยาวต่อกันจนไปถึงอีกฝั่งนั้น เป็นการนำหลักการหนึ่งมาประยุกต์ใช้ซึ่งคือหลักการใช้เทคนิคจุดนำสายตาของการวาดภาพ/ถ่ายภาพ ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำให้ห้องดูกว้าง โปร่งโล่งมากขึ้น อีกทั้งทำให้รู้สึกไม่อึดอัด เช่น ภาพทิวทัศน์ธรรมชาติต่าง ๆ อย่าง แหล่งน้ำ แม่น้ำกว้างยาว หรือป่าใหญ่ที่มีต้นไม้รกชัฎขึ้นอยู่เต็มบริเวณ ที่เห็นภาพได้อย่างชัดเจนมากที่สุดคือ ภาพท้องฟ้ากว้างที่มีพระอาทิตย์ส่องแสงรำไรยามเย็น เป็นต้น
ตัดสินใจเปลี่ยนผนังบ้านแบบทึบ
การใช้ผนังบ้านแบบทึบปกติธรรมดานั้น หลายครั้งอาจเกิดปัญหาที่แสงเข้ามาไม่ถึงในบางมุมของห้องหรือบริเวณนั้น ๆ ทำให้ดูมืด ทะมึน ดูไม่สดใสและทำให้รู้สึกอึดอัด การเลือกเปลี่ยนผนังเป็นวัสดุอื่นหรือนำเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้เข้ามาต่อเติมก็จะสามารถขจัดความมืดภายในบ้านเปลี่ยนเป็นความสว่างสดใสและดูโปร่งสบายมากขึ้นได้นั่นเอง
1. การใช้กระจกเข้ามาแทนที่ผนังบางส่วน
การเปลี่ยนกระจกเข้ามาแทนผนังทึบนั้นจะช่วยให้บ้านหรือห้องดูกว้างขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมกันมากเลยทีเดียว เนื่องจากจะช่วยขยายมุมมองการมองเห็นของทิวทัศน์รอบข้าง เห็นวิวธรรมชาติ ท้องฟ้า สวนหลังบ้าน หรืออาจเป็นชายหาดและทะเล โดยวิธีที่การนี้มักถูกนพไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจที่พักเช่น บ้านพักตากอากาศ รีสอร์ท หรือโรงแรมใกล้พื้นที่ธรรมชาติหลายแห่ง
2. การนำผ้าม่านแบบโปร่งแสงมาใช้งาน
ผ้าม่านเองก็เป็นเฟอร์นิเจอร์ชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าสนใจกับห้องหรือบ้านของเราได้ โดยมีการเปรียบเปรยว่าหน้าต่างก็คล้ายกับเป็นแผ่นกรองแสงที่ช่วยให้ห้องดูมีคาแรคเตอร์ มิติใหม่ ๆ ให้น่าสนใจมากขึ้น
สีของผ้าม่าน ควรเลือกใช้สีที่ดูขาวสะอาด หรือสีครีม เบจ เพื่อทำให้ห้องดูสว่างโปร่ง และดูกว้างมากขึ้น
ความยาวของผ้าม่าน ควรเลือกใช้ในขนาดที่ไม่ยาวมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ห้องดูแคบลงได้ ควรเลือกซื้อใช้ในขนาดสัดส่วนที่พอเหมาะ ยาวเลยขอบล่างของหน้าต่างออกมาเพียงเล็กน้อย เพื่อให้เกิดการแบ่งสัดส่วน และให้ห้องปลอดโปร่งขึ้น
วัสดุของเนื้อผ้าม่าน ใช้เป็นแบบโปร่ง บาง เพื่อให้มีการเข้าผ่านของแสงมากขึ้น รับแสงแดดจากภายนอกบ้านเข้าสู่ห้อง เพื่อขยายพื้นที่ความสว่างภายในห้องให้ห้องดูกว้างมากขึ้น
ใช้งานแสงธรรมชาติจากนอกบ้านหรือสร้างขึ้นมา
โดยนอกเหนือจากการใช้ผ้าม่านที่โปร่งหรือการใช้กระจกแทนผนังเพื่อการรับแสงที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว อันที่จริงเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเช่นโคมไฟก็เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่หนึ่งที่ควรมีติดบ้านไว้ เนื่องจากให้ปัญหาที่บางจุดบริเวณบ้านมีแสงไม่เพียงพอ หรือแสงธรรมชาติอาจเข้าถึงได้น้อยนั้น การเลือกซื้อโคมไฟดีไซน์ที่เหมาะกับห้องหรือตัวบ้านเองก็จะทำให้ห้องดูสว่าง โปร่ง สบายตาเพิ่มขึ้น
ทางที่ดีไม่ควรเลือกใช้การกั้นห้อง
การใช้ที่กั้นห้องเพื่อการจัดแบ่งสัดส่วนของห้องเป็นเรื่องที่ดีในการจัดระเบียบห้องให้ดูเรียบร้อยมากขึ้น แต่กลายเป็นว่าจะทำให้ห้องดูมีสิ่งกีดขวาง กั้นสายตา ส่งผลให้ห้องดูแคบลง แต่หากจำเป็นในการที่จะต้องกั้นพื้นที่บรืเวณต่าง ๆ ให้เป็นสัดส่วนจริง ๆ เช่น ต้องกั้นบริเวณห้องครัวกับห้องรับประทานอาหาร ก็เปลี่ยนมาใช้ผ้าม่านมู่ลี่บาง ๆ หรือวัสดุกั้นห้องที่เป็นกระจก เพื่อเชื่อมระยะมองเห็นให้ดูไกลและกว้างมากขึ้น ในทางกลับกันการกั้นห้องอาจทำให้ห้องหรือบริเวณบ้านดูกว้างขึ้นหากใช้ที่กั้นห้องที่สามารถพับเก็บได้ตลอดเวลา หากไม่จำเป็นต้องใช้ก็สามารถพับเก็บ หรือเป็นประตูบานเลื่อนแบบรางเลื่อนแทนการใช้ผนังทึบกั้นสัดส่วนระหว่างห้อง
การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม
หลายต่อหลายครั้งที่ปัญหาบ้านมีขนาดแคบ ดูอึดอัด ไม่สบายตานั้นมักเกิดจากตัวเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดใหญ่มากจนเกินไปแล้วมีการจัดวางที่ไม่ถูกต้อง หรือเป็นดีไซน์ที่บดบังทัศนียภาพ ไม่เข้ากับดีไซน์ของห้องหรือบ้านของเรา การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมนอกจากจะตัดปัญหาของความเกะกะ เทอะทะ ทำให้บ้านแคบแล้วยังช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้อีกด้วย
1. เฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in Furniture
เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่จะผลิตตามความต้องการของผู้ใช้งานที่ซึ่งจะผลิตออกมาเพื่อให้เข้ากับซอกมุมของบ้านได้อย่างพอดีเป๊ะกับพื้นที่บริเวณนั้น ๆ โดยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้เราจะสามารถกำจัดพื้นที่เสียประโยชน์ของเราได้อย่างสมบูรณ์อีกทั้งสามารถเลือกการออกแบบ ดีไซน์ที่เข้ากับสไตล์ห้องหรือบ้านของเราได้อย่างเหมาะสม
2. เฟอร์นิเจอร์แบบ Transforming
เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่จะเหมาะกับผู้ใช้งานที่ละเอียดอ่อน ช่างดูแล ใส่ใจของใช้ เนื่องจากข้อจำกัดของเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้จะค่อนข้างมีระยะอายุการใช้งานที่น้อยและความแข็งแรงต่ำ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่แข็งแรงคงทน แต่กลับกัน ในข้อดีที่เป็นจุดเด่นอย่างมากของ Transformimg Furniture คือการที่สามารถปรับเปฃี่ยนฟังค์ชั่นการใช้งานได้อย่างหลากหลาย เช่น เฟอร์นิเจอร์ประเภทโซฟาที่สามารถปรับกลายเป็นเตียงนอน อีกทั้งมีลิ้นชักเก็บของอยู่ด้านใต้โซฟา หรือโต๊ะทำงานที่ปรับได้หลายระดับ จะนั่งใช้งาน ยืนใช้งาน หรือนอนใช้งาน ซึ่งทั้งนี้การปรับเปลี่ยนฟังคฺชั่นการใช้งานที่หลากหลายจะพ่วงมาด้วยการที่เราสามารถพับตัวเฟอร์นิเจอร์เพื่อย่อขนาดของเฟอร์นิเจอร์นั้น ๆ เป็นการประหยัดพื้นที่ ทำให้บ้านดูกว้างขึ้น จากที่เราพับเก็บหลังการใช้งานที่เสร็จสิ้นแล้ว
3. เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว
หากเปรียบเทียบกับเฟอร์นิเจอร์ทั้งสองประเภทที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ ในด้านราคา เฟอร์นิเจอร์ลักษณะนี้จะมีราคาที่เป็นมิตรมากที่สุด จับต้องง่าย และคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นคือการที่สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งการจัดวางบนพื้นที่บริเวณต่าง ๆ ได้อย่างอิสระเสรี สามารถเคลื่อนย้ายเข้ามุม หรือจุดที่ต้องการจัดวาง เป็นการใช้งานพื้นที่อย่างคุ้มค่า ลดการเกิดของพื้นที่เสียประโยชน์ ทว่าข้อเสียคือดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์อาจไม่เข้ากับสไตล์ห้องหรือบ้านของคุณ ซึ่งหากเป็นในกรณียี้อาจทำให้เกิดปัญหาความเทอะทะ กีดขวางมุมมองสายตา กลายเป็นว่าห้องจะดูแคบลงได้ ดังนั้นควรเลือกสรรดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวอย่างตั้งใจ
การที่จะเปลี่ยนบ้านหรือห้องที่แคบให้กลายเป็นพื้นที่ที่ดูกว้างโปร่ง โล่ง สบายตาและไม่อึดอัดนั้น อันที่จริงไม่ใช่เรื่องยากมากนัก ทว่าหากไม่ศึกษาอย่างดีหรือไม่มีคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์อาจทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องคอยแก้ไขอย่างไม่หยุดหย่อนในภายหลังได้ ทั้งนี้ Fit-in Home อยากให้ทุกท่านศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ก่อนการเลือกซื้อหรือเลือกใช้สินค้าเฟอร์นิเจอร์ ๆ โดยผ่านการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อความเหมาะสมและความพึงพอใจสูงสุดของผู้อ่านทุกท่านครับ